ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

คำว่า "พยุหยาตรา" (พะ-ยุ-หะ-ยาด-ตรา) หมายถึง กระบวนทัพ นับแต่โบราณกาลการเสด็จพระราชดำเนินของ พระมหากษัตริย์ไทย นอกจากการเสด็จพระราชดำเนินทางบก ที่เรียกว่า "พยุหยาตราทางสถลมารค" แล้ว การเสด็จพระราชดำเนิน ทางน้ำ คือ "พยุหยาตราทางชลมารค"

ข้อมูลจากกองทัพเรือ อธิบายว่า ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มีมาตั้งแต่ สมัยกรุงสุโขทัย เป็นราชธานี เชื่อว่าเริ่มจาก การที่พระร่วงได้นำเรือออกไปลอยกระทง หรือกระทำพิธี "จองเปรียง" ณ กลางสระน้ำ พร้อมทั้งเผาเทียนเล่นไฟในยามเพ็ญเดือน สิบสอง

ต่อมา สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองเกาะล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำลำคลองมากมายหลายสาย ชีวิตความเป็นอยู่ของ ชาวกรุงเก่าจึงต้องอาศัยเรือ ในการสัญจรไปมา รวมทั้งในเวลารบทัพจับศึกก็จะใช้กระบวนทัพเรือเป็นสำคัญ จึงปรากฏว่ามีการ สร้างเรือรบมากมายในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในเวลาบ้านเมืองปราศจากศึกสงครามได้ใช้เรือรบฝึกซ้อมกระบวนยุทธ์กันเป็นนิจ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงฤดูน้ำหลากอันเป็นเวลาที่ราษฎรว่างจากการทำนา จึงเรียกระดมพลมาฝึกซ้อมกระบวนทัพเรือโดยอาศัยฤดูกาล ประจวบกับเป็นช่วงของประเพณีการทอดกฐิน

พระเจ้าแผ่นดินจึงเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนเรือรบแห่แหน เพื่อให้ไพร่พลได้รื่นเริงในการกุศล จึงจัดเป็นประเพณีที่แห่เสด็จกฐิน และจัดสืบมาจนถึงสมัยกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ เข้าสู่รัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 10 มีพระราชพิธีครั้งสำคัญการเสด็จเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้ง ประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562 จวบจนครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้า พระกฐิน โดย "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค" เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ณ วัดอรุณราชวราราม ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567

---

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความสนใจในการสืบสานพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค ที่ แสดงให้เห็นถึงประเพณีและวัฒนธรรมไทยผ่านทางภาพถ่าย
2. เพื่อให้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายที่ถ่ายทอดถึงคุณค่าความงดงามของมรดกภูมิปัญญาไทย ให้ปรากฏแก่สายตาชาวไทย และชาวต่างประเทศ
3. เพื่อนำภาพถ่ายที่ได้จากการประกวดมาจัดทำเป็นคลังข้อมูลภาพ จัดนิทรรศการภาพถ่าย จัดทำปฏิทิน และ จัดพิมพ์หนังสือภาพถ่ายของวัดอรุณราชวรารามต่อไป

---

ผู้มีสิทธิ์ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด

ผู้สนใจทั่วไปทั้งประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย โดยไม่เสียค่าสมัครใด ๆ

---

หัวข้อการประกวด

การประกวดภาพแบ่งเป็น 2 หัวข้อ คือ

1. เรือพระราชพิธี

   แนวคิด: เป็นภาพถ่ายที่แสดงถึงความงดงามของริ้วขบวนเรือพระราชพิธี หรือเรือพระราชพิธีลำใดลำหนึ่ง

2. ชื่นชมพระบารมี

   แนวคิด: เป็นภาพประชาชนตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เข้ามาร่วมชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินี และริ้วขบวนพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค

---

รูปแบบของไฟล์ส่งเข้าประกวด

1. ต้องเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล และมือถือ เป็นไฟล์ภาพสีแนวนอนหรือแนวตั้ง ถ่ายโดยการใช้ กล้อง Digital และมือถือทุกรูปแบบ ไฟล์ภาพต้องมีขนาดด้านที่สั้นที่สุดไม่ต่ำกว่า 2,400 pixels และ ด้านที่ยาวที่สุดไม่เกินกว่า 6,000 pixels ถ้าเป็นภาพ Panorama ต้องมีขนาดยาวที่สุดเท่ากับ 6,000 pixels ในรูปแบบไฟล์ .jpg เท่านั้น (ต้องเก็บ File ต้นฉบับไม่ว่าจะเป็น Raw Files และ/หรือ .jpg ไว้ สําหรับการตรวจสอบ)
2. ต้องไม่มีลายน้ำ เครดิตภาพ ตัวอักษร หรือกราฟิกใด ๆ ลงบนภาพ รวมทั้งห้ามเว้นขอบภาพเป็นสีขาวหรือสีใด ๆ
3. รูปแบบของไฟล์ในแบบมาตรฐาน .jpg โดยมีความละเอียดระหว่าง 2-6 Mb ไม่รับภาพที่เป็น Raw Files และไฟล์ที่เป็นสกุลอื่น (ผู้เข้าประกวดจะต้องส่งไฟล์ภาพต้นฉบับมายืนยัน ทุกภาพ ในกรณีที่ภาพได้รับรางวัล)
4. การใช้โปรแกรมในการโปรเซสภาพให้ดําเนินการได้เฉพาะการปรับสี และแสงของภาพตามความเหมาะสม แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการตัดสิน ผู้ส่งภาพต้องเก็บภาพต้นฉบับไว้เพื่อตรวจสอบจนกว่าการจัดการประกวดจะแล้วเสร็จลง (กรณีคณะกรรมการมีความประสงค์จะขอดูภาพต้นฉบับ)
5. วิธีการส่งภาพเข้าประกวดภาพถ่าย

   ผู้ส่งภาพเข้าประกวดสามารถเข้าไปลงทะเบียน และอัพโหลดไฟล์ภาพผ่านลิงก์ www.watarunphoto.com ตั้งแต่วันที่ 15 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 (ส่งได้ถึง 18:00 น. ของวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567) โดยผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบบนหน้าเว็บไซต์โดยกรอกชื่อ-นามสกุล พร้อมรายละเอียด และโหลดไฟล์ภาพเข้าประกวดที่มีขนาดไม่น้อยกว่า 2 Mb และไม่เกิน 6 Mb

---

กติกาการส่งภาพเข้าประกวด

1. ต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตรา ทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม ตั้งแต่การซ้อมย่อย การซ้อมใหญ่ การเตรียมความพร้อม และในวันทรงบำเพ็ญพระราชกุศลฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567
2. ผู้ส่งภาพมีสิทธิ์ส่งภาพเข้าร่วมประกวดได้ ไม่เกินประเภทละ 5 ภาพ
3. เป็นภาพที่ถ่ายภายในกรอบเวลาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567
4. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องเป็นผู้ถ่ายภาพด้วยตนเอง ห้ามนําภาพของผู้อื่นมาส่ง หรือส่งในนามผู้อื่นโดยเด็ดขาด หากมีบุคคลใดมากล่าวอ้างเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพ ผู้ส่งภาพเข้าประกวด จะต้องรับผิดชอบใน การเจรจา ตลอดจนรับผิดชอบต่อความเสียหายและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้นทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว (พร้อมทั้ง ปกป้องผู้จัดประกวดไม่ให้ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว) โดยผู้จัดประกวดจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ต่อความ เสียหายและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นข้างต้นทั้งสิ้น
5. ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องไม่มีลายน้ำ เครดิตภาพ ตัวอักษร หรือกราฟิกใด ๆ บนภาพถ่ายนั้น ห้ามเว้น ขอบภาพเป็นสีขาวหรือสีใด ๆ ทั้งสิ้น
6. ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องจัดองค์ประกอบและส่วนประกอบของภาพที่ปรากฏในขณะที่ กดชัตเตอร์ ห้ามเพิ่มเติม หรือลบองค์ประกอบ และ/หรือ ส่วนประกอบของภาพ ภายหลัง จากการกดชัตเตอร์แล้วเป็นอันขาด การตัด ส่วนของภาพหลังจากการกดชัตเตอร์ให้ สามารถกระทําได้ โดยสัดส่วนต้องเป็นไปตามจริงของธรรมชาติ กล่าวคือ สามารถปรับแต่งภาพถ่ายได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่ทําให้ภาพถ่ายนั้น ดูผิดเพี้ยนไปจากความ เป็นจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการตัดสินซึ่งถือเป็นที่สุดและเด็ดขาด
7. สําหรับภาพที่ถ่ายโดย Drone ไม่อนุญาตให้ส่งภาพจากอุปกรณ์ชนิดนี้เข้าร่วมประกวด
8. ในวันที่ส่งภาพเข้าประกวด ตลอดระยะเวลาที่การประกวดยังไม่เสร็จสิ้น ผู้ส่งภาพเข้าประกวดขอรับรองและ ยืนยันว่าภาพดังกล่าวข้างต้น เป็นภาพที่ไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใด ๆ มาก่อน (ไม่ว่าจะเป็นการ ประกวดในเวทีสาธารณะ หรือการประกวดภายในของสมาคม, ชมรม หรือองค์กรอื่นใด) และ/หรือ ไม่เคยถูก ตีพิมพ์ และ/หรือ เผยแพร่ หรือโฆษณาในนิตยสาร, หนังสือ, สื่ออินเทอร์เน็ต หรือโพสต์ลงเว็บไซต์ (ไม่ว่าจะ กระทําผ่านรูปแบบใด ๆ เช่น PC, Notebook, Smart Phone และ/หรือ Smart Device ใด ๆ ก็ตาม) ยกเว้น การโพสต์ลง โซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในทางการค้าหรือเชิงพาณิชย์หรือเพื่อการโฆษณา และ/หรือ ไม่เป็นภาพถ่ายที่ส่งขายอยู่ในคลังภาพ (Stock Photo) ไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ทั้งนี้ในกรณีที่เกิด ปัญหาเกี่ยวกับการวินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ ข้างต้น ผู้ส่งภาพเข้าประกวดตกลงให้การพิจารณาวินิจฉัยของ คณะกรรมการตัดสินถือเป็นที่สุดและเด็ดขาด และจะดําเนินการให้เป็นไปตามข้อร้องเรียน ข้างต้นจนกว่าการประกวดข้างต้นจะเสร็จสิ้นลง
9. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องรักษาไฟล์ภาพต้นฉบับทั้งก่อนและหลังการปรับแต่งไว้ โดยคณะกรรมการตัดสิน สามารถเรียกขอไฟล์ภาพดังกล่าวได้ หากเกิดกรณีมีการประท้วงในการทําผิดกติกา ผู้ชนะการประกวดต้องเก็บ ไฟล์ RAW และมอบให้หลังจากคณะกรรมการได้ตัดสิน เสร็จสิ้นแล้ว
10. ภาพที่เข้ารอบทุกภาพ (รวมถึงภาพที่ได้รับรางวัล) ผู้ส่งเข้าประกวดตกลงให้ ผู้จัดประกวด คือ วัดอรุณราชวราราม ถือลิขสิทธิ์ในภาพถ่ายร่วมกันกับผู้ส่งภาพ โดยผู้จัดประกวดสามารถนําไปใช้เผยแพร่หรือดัดแปลงและทําซ้ำ ได้เพื่อประโยชน์ของวัดอรุณราชวราราม รวมถึงนําไปจัดแสดงในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ เพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักใน คุณค่าของความเป็นไทย หรือดําเนินการใด ๆ ในเชิงพาณิชย์กับ ภาพที่เข้ารอบ และชนะการประกวดนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจระบุชื่อผู้ถ่าย หรือไม่ก็ได้ตามความเหมาะสม
11. ภาพที่ไม่เข้ารอบทั้งหมดภายหลังการประกวดเสร็จสิ้นลง คณะกรรมการตัดสินจะลบไฟล์ภาพทั้งหมดทิ้ง ในกรณีนี้ยังคงเป็นของเจ้าของภาพ (แล้วแต่กรณี) โดยเจ้าของภาพ ดังกล่าวข้างต้นตามข้อนี้มีสิทธิ์แสวงหาประโยชน์จากภาพได้อย่างสมบูรณ์
12. หากพบว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดมีการทําผิดกติกา เช่น ภาพที่ส่งมามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนหรือทําผิดกติกาการประกวดในข้อใดข้อหนึ่ง คณะกรรมการตัดสินมีอํานาจในการตัดสิทธิ์ผู้ส่งภาพเข้าประกวดรายนั้น โดยมีโทษตั้งแต่การตัดสิทธิ์ในการประกวด การเพิกถอนสิทธิ์ในทุกรางวัล และหากได้รับค่าตอบแทน และ/หรือ รางวัลใดรางวัลหนึ่งไปแล้วผู้จัดประกวดก็สามารถยกเลิกและเปลี่ยนแปลงการตัดสิน รวมทั้งขอคืนค่าตอบแทนและ/หรือ รางวัลคืนได้ทั้งหมด
13. หากปรากฏว่าผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดมีข้อผิดพลาดอื่นๆ อันมิได้เกิดจากการทําผิดกติกา เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน การส่งภาพถ่ายที่ผิดขนาด หรืออื่น ๆ คณะกรรมการอาจตัดสินให้ภาพถ่ายนั้นเป็นโมฆะตามแต่กรณี การพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการตัดสินถือเป็นที่สุดและเด็ดขาด
14. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อ้างว่ากระทําผิดเพราะอ่านกฎ กติกาไม่ครบถ้วน หรือไม่เข้าใจกฎกติกา เป็นอันขาด และการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการ ตัดสินถือเป็นที่สุดและเด็ดขาด
15. คณะกรรมการตัดสิน มีสิทธิ์กำหนดวิธีการตัดสิน โดยยึดถือแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากลและผลการตัดสินของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สุด โดยจะฟ้องร้องมิได้
16. คณะกรรมการตัดสินภาพและคณะกรรมการดำเนินงานการประกวดภาพถ่าย ไม่มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด

---

รางวัลจากการประกวด

เงินสด 340,000 บาท และถ้วยรางวัลชนะเลิศ จากพระพรหมวัชรเมธี ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะ ภาค 9 เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม

---

กําหนดการจัดโครงการ ฯ

• เปิดรับสมัครภาพถ่ายเข้าประกวด : 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
• ปิดรับสมัครภาพถ่าย : 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 (ส่งได้ถึง 18:00 น.)
• ตัดสินภาพถ่าย : 22-23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
• ประกาศผลการตัดสินภาพถ่าย : 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
• พิธีมอบรางวัล : 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:00 น.
• จัดนิทรรศการภาพถ่ายฯ : 30 พฤศจิกายน – 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567

---

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

สำนักงานกลาง วัดอรุณราชวราราม

พระวชิรรัตนาภรณ์, ดร.

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการวัดอรุณราชวราราม โทร. 085-569-1616

พระเมธีวชิรกวี

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม โทร. 085-139-9332

พระมหาปิยะนัฐ ปิยรตโน

โทร. 096-249-9929

ลดาวรรณ

โทร. 096-195-9989

ธนกฤต

โทร. 095-896-6655